การรับมือเมื่อต้องผ่อนบ้าน รวมขั้นตอนและเทคนิคการผ่อนบ้านที่น่าสนใจ

สำหรับคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ไม่มีอาจจะเพราะไม่ได้รับบ้านเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นพ่อแม่ หรือจะเพราะอยากที่จะได้บ้านเป็นของตัวเองโดยไม่พึ่งพาใคร ล้วนย้อมต้องผ่อนบ้านเพราะไม่อาจจะซื้อบ้านได้ด้วยกำลังเงินของตัวเองภายในรวดเดียวจบ แต่นั้นก็แปลว่าท่านผู้อ่านในฐานะคนผ่อนบ้านได้พาตัวเองเข้าสู่ภาระทางการเงินครั้งใหญ่ในชีวิตที่จะต้องติดตามติดตัวท่านไปอีกหลายสิบปี เพราะการผ่อนบ้านมักจะหมายถึงการต้องชำระเงินกู้หลักล้าน ที่หากเฉลี่ยเป็นเดือนแล้วก็อาจจะไม่กี่หมื่น แต่ผ่อนบ้านคือต้องหาเงินมาจ่ายเรื่อยๆ รวมถึงการคำนวณให้ตัวของท่านเองยังสามารถรับภาระทางการเงินอื่นๆ นอกเหนือจากผ่อนบ้านด้วยถือเป็นเรื่องที่ท้าทายทีเดียว เท่าที่ได้รับข้อมูลมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ  เทคนิคการผ่อนบ้านที่หลายท่านอาจจะต้องพึ่งระลึกถึงก็มีด้วยกันหลายข้อ ข้อแรกก็คือพยายามผ่อนทุกงวดอย่างต่อเนื่อง รักษาระดับการผ่อนให้เป็นไปอย่างคงที่ไม่มีการขอผลัดเมื่อกู้ซื้อบ้านไปแล้ว ยิ่งถ้าหากหาเงินก้อนมาได้พอที่จะจ่ายโป๊ะได้เป็นจำนวนมาก ก็ยิ่งจะลดหนี้ที่เรามีต่อธนาคารเพราะผ่อนบ้านตามไปด้วยในตัว และอีกสิ่งที่หากทำได้ก็จะเป็นการดีคือผ่อนบ้านให้เกินค่างวดในทุกงวด หรือผ่อนให้บ่อยที่สุด เพราะยิ่งใช้เวลานานเพื่อผ่อนบ้านนานเท่าไหร่ก็ยิ่งหมายถึงดอกเบี้ยที่เพิ่มพูนขึ้นตามไปด้วย เมื่อท่านได้จ่ายเงินซึ่งก็คือเงินต้นรวมกับดอกเบี้ยเกินกว่าที่กำหนดในแต่ละเดือน ค่าผ่อนบ้านที่เกินมาก็จะถูกยกไปไว้ในเดือนถัดไปซึ่งแปลว่าก็จะลดลงตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในส่วนนี้ท่านจะต้องทำการคำนวณผ่อนบ้านเป็นระยะๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้องตรงตามแผน

เรื่องอื่นๆ ที่ควรทราบเพื่อผ่อนบ้านและการผ่อนชำระ

บางท่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็อาจจะอยากทราบว่าเงินเดือนผ่อนบ้านควรจะเป็นเท่าไหร่ มีผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าเงินสำหรับการผ่อนชำระไม่ควรจะมากเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนในกรณีที่ต้องผ่อนบ้านอย่างเดียว แต่หากมีหนี้สินอย่างอื่นด้วยเช่นผ่อนรถ หรือโทรศัพท์มือถือ คนที่สงสัยว่าผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ คำตอบก็คือน่าจะอยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อเดือน ส่วนสิ่งที่หลายคนอยากรู้ก็คือหากเงินเดือน 15,000 ถึง 20,000 บาทอยากซื้อบ้านสามารถทำได้หรือไม่ คำตอบก็คือหากเงินเดือนแค่ 15,000 บาท จะผ่อนบ้านก็จะได้วงเงินกู้ไม่เกินกว่า 1,200,000 บาท หรือมียอดที่ผ่อนบ้านได้ (กรณีไม่มีหนี้สิน) อยู่ที่ 7,500 บาทต่อเดือน ซึ่งแปลว่าท่านจะต้องมองหาบ้านที่จะซื้อในราคา 1,200,000 บาทหรือมากกว่านั้นได้นิดหน่อย และหากมีเงินเดือนที่มากกว่านั้นเช่น 30,000 บาทจะผ่อนบ้านก็อาจจะกู้เงินได้วงเงินสูงถึง 2,400,000 บาทและสามารถกันเงินเดือนมาผ่อนบ้านได้เดือนละ 15,000 บาทกรณีไม่มีหนีสิ้นอื่นๆ ส่วนคนที่มีเงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 40,000 บาทต่อเดือนจะผ่อนบ้านราคาหลักล้านก็ง่ายหน่อย เพราะมีเงินที่เหมาะสมต่อการกันไว้ผ่อนบ้านอยู่ที่ 20,000 บาทต่อเดือน และวงเงินที่ขอได้อาจจะสูงถึง 4,000,000 บาทเลยทีเดียว และแน่นอนว่าหลายๆ ท่านเมื่อทราบผลกระทบที่เงินเดือนจะมีต่อการผ่อนซื้อบ้านว่าคืออะไรแล้ว ก็สามารถเลือกได้ว่าจะกู้เงินเพื่อซื้อบ้านแบบไหน ที่จะทำให้สามารถผ่อนบ้านได้สำเร็จภายในรุ่นของท่านไม่ต้องเป็นภาระของลูกหรือหลานท่านได้ เรียกได้ว่าผ่อนบ้านอาจจะเป็นเรื่องรองเท่ากับว่าบ้านที่จะผ่อนนั้นเหมาะสมกับฐานะหรือไม่ และเรื่องนี้แม้ว่าท่านผู้อ่านอาจจะเป็นคนเดียวที่ต้องหาเงินมาชำระค่าผ่อนบ้าน แต่ก็อาจจะต้องทำการปรึกษาคนในครอบครัวร่วมกันก่อนว่า หากมีกำลังทรัพย์ผ่อนบ้านเท่านี้เราควรจะเลือกบ้านแบบไหน ไม่ใช่เลือกบ้านเพราะความสวยงามใหญ่โตอย่างเดียว แต่สุดท้ายแล้วไม่อาจจะผ่อนบ้านได้สำเร็จและก็อาจจะต้องเผชิญกับการโดนยึดบ้านคืนไปในที่สุดได้ การวางแผนผ่อนบ้านเป็นสิ่งที่ควรทำมากๆ เพราะเรื่องค่าใช้จ่ายในการผ่อนเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงและแน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายแฝงเรื่องบ้านอีกเยอะเลย

การผ่อนบ้านกับธนาคาร ยากหรือง่ายอย่างไรสำหรับคนต้องผ่อนบ้าน

การผ่อนบ้านกับธนาคารนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นทางเลือกของใครหลายคน เพราะธนาคารดูจะเป็นตัวกลางที่ช่วยทำให้ทุกอย่างดูไม่ยุ่งยากจนเกินไป เพราะทางธนาคารเหมือนตัวกลางที่จะช่วยในเรื่องผ่อนบ้านระหว่างเจ้าของโครงการบ้านกับท่านผู้อ่านซึ่งจะต้องทำการผ่อนชำระ แต่พอเป็นการผ่อนบ้านกับธนาคารแล้ว สิ่งหนึ่งที่ตามมาก็คือดอกเบี้ยที่จะต้องชำระที่แต่ละธนาคารจะมีอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกันออกไป ท่านผู้อ่านที่จะผ่อนบ้านโดยเฉพาะกับธนาคารอาจจะต้องศึกษาข้อมูลในส่วนนี้ก่อน ว่าธนาคารแต่ละแห่งมีนโยบายอย่างไรบ้างถ้าหากเป็นเรื่องผ่อนบ้าน ซึ่งบางธนาคารก็จะมีโปรโมชั่นพิเศษที่ทำให้ผ่อนบ้านกับทางธนาคารแห่งนั้นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และท่านผู้อ่านอาจจะต้องรวบรวมตัวเลือกเพื่อที่จะผ่อนบ้านกับทางธนาคารเอาไว้เยอะๆ เพื่อใช้ในการตัดสินใจ และนอกจากนี้อีกหนึ่งวิธีคือท่านอาจจะลองสอบถามกับทางพนักงานของธนาคาร รวมถึงปรึกษาผู้มีประสบการณ์ตรงในเรื่องผ่อนบ้านกับทางธนาคารมาก่อน 

การผ่อนบ้านกับเจ้าของและผ่อนบ้านกับโครงการเป็นทางเลือกผ่อนบ้านที่ดีหรือไม่?

สำหรับผู้ที่ต้องการจะผ่อนบ้านกับเจ้าของบ้านโดยตรง ก็จัดว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจเพราะในแง่หนึ่งก็สามารถกำหนดเงื่อนไขในการผ่อนชำระได้โดยง่ายเมื่อไม่ต้องทำเรื่องผ่านธนาคารหรือสถาบันการเงินใดๆ แล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่งผ่อนบ้านในลักษณะดังกล่าวก็อาจจะต้องทำการระวังให้มาก เพราะเมื่อไม่มีตัวกลางแล้วก็จะกลายเป็นการตกลงกันของคนสองฝ่าย หากไม่ได้ทำสัญญาผ่อนบ้านที่เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน มีรายละเอียดที่ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยที่แน่นอน เรื่องของเงินต้น หรือถ้าคนผ่อนบ้านต้องการจะเอาเงินมาโป๊ะเพื่อให้การผ่อนหมดเร็วขึ้นจะสามารถทำได้หรือไม่ และจะส่งผลอย่างไรต่อสัญญาโดยรวม และอีกเรื่องที่จะต้องระลึกถึงเมื่อผ่อนบ้านในลักษณะนี้ก็คือ หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิตไปก่อนที่จะสิ้นสุดการผ่อนบ้าน ลูกหลานของทั้งสองฝ่ายจะจัดการอย่างไร เพราะหากทำกับธนาคาร ปัญหาส่วนนี้เมื่อผ่อนบ้านก็จะไม่มากนักเพราะอย่างน้อยฝั่งธนาคารเป็นสถาบันทางการเงินที่ค่อนข้างมั่นคงมากกว่า นั้นแปลว่าท่านและคู่สัญญาเจ้าของบ้านอาจต้องตกลงเงื่อนไขผ่อนบ้านในส่วนนี้เอาไว้ล่วงหน้าด้วย และอีกเรื่องที่จะต้องคุยกันก็คือผ่อนบ้านล้านละกี่บาท จะเป็นแบบธนาคารหรือไม่ซึ่งจะต้องตกลงไว้ในสัญญาเช่นกัน บางคนอ่านถึงตรงนี้แล้วอาจจะสงสัยว่า หากผ่อนบ้านกับโครงการจะแตกต่างหรือเหมือนกับการผ่อนบ้านกับทางเจ้าของบ้านหรือไม่ คำตอบก็คือก็อาจจะมีความใกล้เคียงกันในการทำข้อตกลงไปจนถึงถึงวางขั้นตอนต่างๆ ร่วมกันเพื่อผ่อนบ้าน และจะต้องมีความซื่อสัตย์ซึ่งกันและกันในการทำสัญญา เพื่อให้สามารถผ่อนบ้านได้ด้วยความสบายใจของทั้งสองฝ่าย 

การหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อผ่อนบ้านในโลกออนไลน์

เพราะโลกออนไลน์หรือโลกอินเตอร์เน็ตเป็นที่รวมของแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจอันหลากหลาย การจะใช้เพื่อค้นหาคำตอบของการทำอะไรสักอย่างย่อมเป็นเรื่องไม่ยากเย็นนัก ซึ่งก็รวมถึงเรื่องผ่อนบ้านด้วย และถือเป็นการดีหากท่านผู้อ่านได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้เรื่องผ่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการรีไฟแนนซ์ซึ่งจะช่วยรวมหนี้และทำให้การบริหารหนี้สินต่างๆ เพื่อผ่อนบ้านดูง่ายขึ้น ซึ่งไม่ใช่ว่าอยากจะรีไฟแนนซ์ก็ทำกันง่ายๆ แต่จะต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสมและมีเหตุอันควรซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องผ่อนบ้านด้วย และการศึกษาโดยเฉพาะเรื่องของการผ่อนบ้านล้านละกี่บาทก็เป็นเรื่องที่ควรจะทำ และสิ่งหนึ่งที่อยากจะทิ้งท้ายไว้ในบทความก็คือหากท่านที่อยากมีบ้านได้มีสมความตั้งใจแล้ว ก็ควรที่จะพยายามรักษาบ้านเอาไว้ไม่ปล่อยให้ภาระทางการเงินหรือหนี้สินเมื่อผ่อนบ้านมาทำให้เสียบ้านของท่านไปได้ และหวังว่าทุกท่านจะเริ่มผ่อนบ้านได้อย่างราบรื่นในปี 2567 หรือ 2024 นี้ 

ผ่อนบ้านเป็นสิ่งที่คุณควรมองแผนในการจ่ายค่างวดให้ดีๆ ทุกธนาคารจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน และดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาก็จะไม่มีให้เห็น ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ 3 ปี และแน่นอนว่าผ่อนครบ 3 ปีคนส่วนใหญ่ก็จะเลือกย้ายไปผ่อนกับที่อื่นหรือเรียกว่ารีไฟแนนซ์นั่นเอง