• Facebook
• Twitter
• Line

ทำความรู้จักกับ Black card อัพเดทล่าสุด

หากใครที่กำลังอยากทราบว่า Black card คืออะไร? แน่นอนว่าบทความนี้มีคำตอบให้ทราบอย่างแน่นอน บัตรเครดิต Black card ถือเป็นบัตรเครดิตระดับสูงที่ไม่เหมือนของสถาบันการเงินไหนๆ เพราะได้รับเกียรติจากคนดัง,นักธุรกิจชั้นนำและรวมถึงมหาเศรษฐี โดยแน่นอนว่าต้องเป็นบุคคลที่มีฐานรายได้สูงมากๆ เท่านั้น ซึ่งล่าสุดทาง Black card ก็ได้จ้างลิซ่า blackpink มาเป็นพรีเซนเตอร์นั่นเอง และผู้อ่านทุกคนต้องทราบก่อนว่าบัตร Black card ไม่ใช่ใครก็สามารถใช้บริการได้ โดยผู้ที่จะครอบครองแบล็คการ์ดกสิกรได้นั้นต้องมีรายได้อย่างน้อย 16 ล้านเหรียญ ซึ่งค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 120,000 เหรียญต่อปี เป็นต้น ซึ่งความแตกต่าง Black card กับบัตรทั่วไปคือ ความเป็นมาของบัตรและสิทธิพิเศษที่จะได้รับเมื่อครอบครองบัตรนั่นเอง

ตอบคำถามต่างๆ เกี่ยวกับ Black card

หลังจากที่ผู้อ่านได้ทำความรู้จักกับ Black card กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ทำให้ทุกคนอยากที่จะทราบข้อมูลเพิ่มเติมของบัตรเครดิต Black card กันเป็นจำนวนมาก โดยผู้เขียนได้ทำการรวบรวมข้อมูลสำคัญที่ควรทราบก่อนเลือกสมัครบัตรเครดิตระดับสูงประเภทนี้ ถ้าพร้อมแล้วมาติดตามรายละเอียดได้ดังนี้

1. Amex black card ต้องมีวงเงินเท่าไหร่? ผู้ที่จะเลือกใช้งาน Black card ต้องมีเงินในบัญชี 5ล้าน US ไว้ในบัตรค้ำประกันและต้องมียอดเงินใช้จ่ายมากกว่า 750,000 Us ต่อปี ถึงจะเลือกสมัครใช้แบล็คการ์ดกสิกรได้
2. วงเงินบัตรเครดิต Black card เท่าไหร่? วงเงินที่ทุกคนจะได้รับจาก Black card คือ 5 เท่าของรายได้ผู้สมัครโดยต้องมีวงเงินฝาก 150 ล้านบาท
3. Black card มีการคิดค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตอย่างไรบ้าง? 1.ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 182,600 บาท ต่อ 2.ค่าธรรมเนียมรายปี 91,300 บาท(ส่วนใครที่ทำบัตรเครดิตหายจะเสียค่าออกบัตรใหม่อยู่ที่ 913,000 บาท)

ในส่วนของการตอบคำถามเกี่ยวกับ central the 1 black ก็มีเพียงเท่านี้ โดยในหัวข้อสุดท้ายไปดูว่าสิทธิพิเศษที่ได้จากการครอบครองแบล็คการ์ดมีอะไรบ้าง? ไปดู

สิทธิพิเศษของ Black card

หัวข้อสุดท้ายนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำสิทธิพิเศษที่ได้จาก Black card ว่ามีอะไรบ้าง? ติดตามได้ที่นี่ บัตรเครดิต Black card ถือเป็นบัตรเครดิตที่มีวงเงินไม่จำกัด ซึ่งวงเงินบัตรเครดิตจะขึ้นอยู่กับเงินฝากที่ผู้ครอบครองได้ฝากไว้กับธนาคารนั่นเอง แค่นั้นยังไม่พอเพราะ Black card ยังมี SA หรือเลขาส่วนตัวที่พร้อมดูแลเจ้าของบัตร เมื่อเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ภายในห้างสรรพสินค้าและยังได้รับตั๋วเครื่องบิน ฟรี 1 ครั้งต่อปีพร้อมห้องรับรองในรูปแบบ Frist Class ทุกสนามบินทั่วโลกและทั้งหมดนี่ก็คือ ความแตกต่างระหว่าง Black card กับบัตรเครดิตทั่วไป ซึ่งผู้ที่จะเลือกใช้งานบัตรเครดิตระดับสูงก็ต้องมีคุณสมบัติและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ทางแบล็คการ์ดไว้เท่านั้น